สุวัต ษมาจิตโอบอ้อม เครือข่ายเยาวชนลุ่มน้ำสาละวิน
ดอกสาละวินคาดว่าคงมีมานานแล้วด้วยเหตุที่ชาวบ้านไม่ได้สังเกตและใส่ใจกับดอกไม้ชนิดนี้ ที่พบครั้งแรกเมื่อปี 2545 ในเขตบริเวณหาดทรายบ้านท่าตาฝั่งเพราะคนภายนอกได้เข้ามาสัมผัสสาละวินเพิ่มมากขึ้นมีทั้งพ่อค้า ข้าราชการ นักท่องเที่ยว นักศึกษา และนักวิจัย ชาวบ้านสังเกตเห็นตอนทำวิจัยไทบ้านในขณะนั้น
ดอกสาละวินมีคุณลักษณะพิเศษงอกขึ้นบนหาดทราย ทนต่อความร้อน จะออกดอกช่วงน้ำลดหาดทรายโผล่ฤดูหน้าหนาว ลักษณะดอกสาละวินสีเหลืองและมีหนาม
ดอกสาละวินเป็นชื่อที่ชุมชนเรียกภายหลังจากการถูกค้นพบจากงานวิจัยไทบ้าน และเรียกมาจนถึงทุกวันนี้
จากการสืบค้นข้อมูลจากแหล่ง Goolgle มีชื่อเรียกว่า ฝิ่นหนาม (ชื่อวิทยาศาสตร์: Argemone Mexicana)จัดเป็นดอกป๊อปปี้ชนิดหนึ่งที่พบในเม็กซิโก เป็นพืชที่ทนต่อความแห้งแล้งและดินเสื่อมโทรม มักพบในพื้นที่ถนนตัดใหม่ มียางสีเหลือง ซึ่งเป็นพิษต่อสัตว์ฟันแทะ แต่ชาวอินเดียนแดงพื้นเมืองในเม็กซิโกและสหรัฐฝั่งตะวันตกใช้พืชนี้เป็นยา (Felger, R. S.; Moser, M. B. (1985). People of the Desert and Sea. Tucson, AZ: University of Arizona Press.)
ที่ผ่านมาคนในชุมชนได้เอาเมล็ดทดลองปลูกในกระถางและดูแลอย่างใกล้ชิด ปรากฏว่าไม่งอก อาจเป็นเพราะสภาพ ดิน ฟ้า อากาศ ผิดที่ผิดแหล่ง ไม่ใช่ถิ่นของมัน
ต้องเข้าใจสภาพธรรมชาติและอย่าฝืนธรรมชาติ ปล่อยขึ้นเองตามธรรมชาติ ทรัพยากรลุ่มน้ำสาละวินก็เช่นกันไม่ควรทำลาย เพราะบางอย่างไม่สามารถทดแทนได้
ทุกสรรพสิ่งบนโลกย่อมมีคุณค่า ไม่ควรถูกละเลยและโดนทำลายด้วยเหตุผลเพียงเพราะคำว่า “พัฒนา” ควรฟังเสียงของคนตัวเล็กตัวน้อย ถึงแม้เป็นเสียงริบหรี่แต่อาจเป็นเสียงที่มีความหมาย ดอกสาละวินจะสื่อความหมายให้ทุกคนรักสาละวิน
--------